ความเป็นมา
มูลนิธิการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม (Civicnet Foundation)
สร้างสรรค์สังคมใหม่ ด้วยปัญญาและจิตวิญญาณ อันอิสระของความเป็นพลเมือง
จากการรวมพลังของภาคีต่าง ๆ ในการจัดงานเวทีสิ่งแวดล้อมไทย ปี พ.ศ. 2538 ภายใต้คำขวัญ “ร่วมใจ ทำกัน วันนี้” และสืบเนื่องมาสู่การจัดเวทีสิ่งแวดล้อมไทยอีกครั้งเมื่อต้นปี พ.ศ.2540 ในหัวข้อ “ทำเมืองไทยให้น่าอยู่และยั่งยืน” จากนั้นก็มีการประชุมร่วมกันของแกนนำทางสังคมในจังหวัดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และเริ่มทำงานในนาม “ข่ายการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม” หรือ Civicnet เมื่อกลางปี พ.ศ.2540 เพื่อทำหน้าที่เป็นเครือข่ายประสานเชื่อมโยงองค์กรต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างหลวม ๆ ของกลุ่มประชาคมในจังหวัดต่าง ๆ

การเยี่ยมเยือนพื้นที่ในจังหวัดต่าง ๆ การอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการร่วมกันในหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในนามของ “กลุ่มการะเกด” ที่ผลักดันกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวางในพื้นที่ต่าง ๆ ในการร่วมร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พ.ศ.2540 และการจุดประกายกระแสความสนใจในเรื่องของเศรษฐกิจในนามของ “ประชาคมกอบบ้านกู้เมือง” เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2541 ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงพลังการรวมตัวของท้องถิ่นที่หลากหลายและความจำเป็นของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ด้วยพลังปัญญาของพลเมือง เพื่อการขับเคลื่อนทางสังคมมิให้จมปรักอยู่กับทิศทางการพัฒนาที่ไร้ความหวังแบบเดิม ๆ อีกต่อไป

การทำหน้าที่เป็นเครือข่ายประสานงานเชื่อมโยงองค์กรต่างๆ เข้าด้วยกันของข่ายการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม ตอกย้ำให้เห็นถึงมิติใหม่ในการทำงานพัฒนาและกระบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมอย่างน้อยใน 3 ประการ กล่าวคือ

ประการแรก ได้เกิดกระบวนการรวมตัวกันของภาคประชาชนในรูปกลุ่ม องค์กร แบบต่าง ๆ เพื่อทำงานเปลี่ยนแปลงและพัฒนาทางสังคมทั้งในด้านวัฒนธรรม การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การพัฒนาชนบทและการเกษตรทางเลือก การพัฒนาเมืองและอื่น ๆ อย่างกว้างขวางในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

และประการที่สาม ได้เห็นความจำเป็นในการถักทอความพยายามเหล่านี้เข้าด้วยกัน เพื่อหนุนเสริมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันทั้งในเชิงเนื้อหาวิชาการและการคิดค้นรูปแบบการทำงานเชิงสร้างสรรค์ใหม่ ๆ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของทีมงานผู้นำเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม (Change Agents) เหล่านี้

การเชื่อมโยงของเครือข่ายและกลุ่มประชาคมต่าง ๆ นั้น มีการขยายตัวออกอย่างกว้างขวางในหลาย พื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการเชื่อมโยงกับกลุ่มองค์กรในสถาบันการศึกษา เช่น กลุ่มศาลายาฟอรั่ม มหาวิทยาลัยมหิดล การเชื่อมโยงกับต่างประเทศ อาทิ The Kettering Foundation เป็นต้น ประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจสังคมที่เรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปอย่างกว้างขวางของสังคมไทย จึงเล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระบบและกระบวนการทำงาน “เคลื่อนไหวทางสังคม” (Civic Movement) ให้มีพลังและมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

จึงได้มีการจดทะเบียน “มูลนิธิการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม” (Civicnet Foundation) ในปี พ.ศ.2542 และมี “สถาบันการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม” (Civicnet Institute) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Civicnet เพื่อทำหน้าที่เป็นองค์กรประสานงานกลางในระดับประเทศเพื่อสืบสานการทำงานดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพและมีความต่อเนื่องในระยะยาว
วัตถุประสงค์
1. เป็นศูนย์รวมข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการประชาสังคม เชื่อมโยงกับกลุ่มประชาคม (civic groups) ต่าง ๆ เพื่อให้มีการถอดประสบการณ์และสังเคราะห์ความคิดในเรื่องที่เกี่ยวข้องและถ่ายเทแลกเปลี่ยนความรู้หรือประสบการณ์ให้เป็นที่รับรู้ร่วมกัน โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นองค์กรที่ทำงานเคลื่อนไหวด้านประชาสังคมเป็นหลัก

2. การเชื่อมโยง ถ่ายทอด แลกเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์และข้อมูลกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่สนใจงานด้านประชาสังคม (Change Agents) เพื่อให้เข้ามาอยู่ในทิศทางหรือร่วมขบวนเดียวกัน

3. ร่วมสร้างวิสัยทัศน์ และ Common Goals ร่วมกันในเครือข่ายพันธมิตร รวมถึงการเคลื่อนไหวทางสังคมเชิงสร้างสรรค์ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

4. เอื้ออำนวย (facilitate) ให้กับกลุ่มประชาคม (Civic group) อื่น ๆ เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้และเครื่องมือต่าง ๆ ในการพัฒนาขบวนการประชาสังคม โดยกระบวนการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการและการสื่อสารทางสังคม

5. ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ การเผยแพร่ความรู้ อีกทั้งให้คำปรึกษาทางวิชาการและการฝึกอบรม พัฒนาศักยภาพเพื่อความเข้มแข็งของชุมชน พลเมือง หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

6. เพื่อส่งเสริมขบวนการประชาสังคมในการเชื่อมโยงกับกลุ่มประชาคม (Civic group) ในระดับท้องถิ่นและการคุ้มครองผู้บริโภคในด้านการสื่อสารมวลชนและการใช้สื่อมวลชนเพื่อประโยชน์สาธารณะ